สำนักพิมพ์ ปัณณ์รัก : มอบหัวใจให้คุณ

 
 
 
 
 
Started by Topic:    ปลายหมอกและดอกหญ้า ตอนที่ 6  (Read: 647 times - Reply: 0 comments)
 
bdba

Posts: 8 topics
Joined: 30/1/2554

ปลายหมอกและดอกหญ้า ตอนที่ 6
« Thread Started on 24/2/2554 22:40:00 IP : 222.123.211.111 »
 

ตอนที่ 6

 

เช้าวันต่อมาภูธนาเร่งฝีเท้ามาให้ทันบูรณาที่กำลังเปิดประตูรถทำท่าจะออกไปข้างนอก ขณะที่ชายหนุ่มเดินเร็วแทบวิ่งกั้นมือไว้ระหว่างประตูรถของน้องสาว  บูรณาสะดุ้งตัวโหยงหันกลับมามองพี่ชายที่มีทีท่าแปลกๆและดูพิลึกไปกว่าทุกวัน

"พี่ภูมีอะไรหรือเปล่า" เจ้าหล่อนถามขึ้นเมื่อจับสีหน้าชายหนุ่มที่กระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด

"บูร... ยัยอิงอะไรนั่นน่ะ ทำไมเปลี่ยนไปเยอะเลย"เขาถามรวดเร็วจนแทบจะจับน้ำเสียงไม่ทัน บูรณาขมวดคิ้วมองพี่ชายที่พยายามกลบเกลื่อนสีหน้าผิดปกติ

 
"ทำไมเหรอพี่ภู"


"เมื่อวานเจอยัยนั่น พี่แค่ไม่คุ้นตา ก็เลยสงสัย"เขาทำสีหน้าเฉยชาถึงแม้จะไม่ยอมสบตาน้องสาวมากนัก  บูรณารู้ว่าพี่ชายสนใจมิเช่นนั้นจึงไม่เร่งถามแต่เช้าแถมแก้มทั้งสองข้างยังแดงเรื่อๆ บูรณาเหล่ตามองพลางยิ้มเจ้าเล่ห์


"ที่ถามนี่ เกิดสนใจยัยอิงเข้าหรือเปล่าจ้ะ" หล่อนพยายามจับผิดพี่ชายที่ยังคงปากแข็ง หล่อนรู้ว่ากิตติคงจะติดใจอิงแก้วเข้าให้อย่างจังแต่เขาเพียงแค่ปกปิดความรู้สึกในใจเท่านั้น แต่แววตาของเขาแสดงออกได้ชัดเวลาที่เอ่ยถึงชื่ออิงแก้วว่าใจของเขาก็รู้สึกดีกับคนคนนี้


"ใครว่า พี่แค่แปลกใจ ภาพลักษณ์ที่เห็นมันต่างจากเมื่อก่อนมากจนพี่จำแทบไม่ได้"ภูธนาปรอยตามองน้องสาวที่ยังไม่เลิกลาทำหน้าตาล้อเลียน


"อ่อ ไอ้ตอนที่เรียนมหาลัยใช่ไหม ก็ที่พี่ภูเห็นยัยอิงตอนนั้นน่ะเป็นช่วงสอบ ยัยอิงน่ะจะโทรมไปเลย ผมก็ไม่หวี ยัยนี่นะอ่านหนังสือแทบเป็นแทบตายตื่นมาก็ตรงมาสอบเลยคงไม่มีอารมณ์มาทำสวยหรอกค่ะ"


"อ่อก็ว่าทำไมไม่เห็นเหมือนเมื่อครั้งนั้น"เขาเลิกคิ้วก่อนจะเหลียวมองน้องสาวที่ทำหน้าเจ้าเล่ห์เพทุบายน่าดู


"แล้วทำไมเหรอ...ครั้งนี้น่ารักกว่าเหรอ"


"ว่าไป หน้าตาก็งั้นๆ นิสัยยิ่งไปกันใหญ่ แย่มากๆ "ภูธนาหลบสายตาเลี่ยงไปทางอื่น หญิงสาวส่ายหน้าช้าๆพลางเปลี่ยนเพราะตอนนี้ยิ่งหล่อนแกล้วหยอกเท่าไรหน้าของ เขาแทบจะแดงไปทั้งหน้าอยู่แล้ว

"แล้วนี่พี่ภูจะเข้าไปตรวจงานในไร่แล้วไปจะไปไหนต่อเหรอ"


"อ่อ พอดีพี่ว่าจะไปดูร้านกาแฟหน่อย" เขาบอก  บูรณาพยักหน้าช้าๆ


"ร้านกาแฟเหรอ...อื่มๆ คืบหน้าไปเท่าไรแล้ว"


"ก็มากแล้ว ก็ว่าจะบอกคุณปรายฟ้าสักหน่อยนะว่าอีกไม่นานคงจะได้ฤกษ์เปิดร้านซักที"


"และถ้าถึงวันนั้นพี่ภูก็คงได้พบเธอซักที"บูรณากล่าว ชายหนุ่มยิ้มด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข


"พี่ว่าก็ว่างั้นแหละ"เขายักไหล่ก่อนจะก้มลงมองนาฬิกา


"พี่ไปก่อนนะ เดี๋ยวต้องรีบไปทำธุระ"


"ค่ะๆ"บูรณายิ้มรับ ชายหนุ่มโหนตัวขึ้นบนรถจี๊บคันใหญ่สตาร์ทขับลงไปตรวจงานในไร่ด้านล่าง แต่บูรณาก็ไม่วายนึกขำขัน หากทั้งสองรู้ความจริงว่าต่างกำลังทำธุรกิจซึ่งกันและกันจะเป็นไง...คงจะเหวอน่าดูเลย

 

อิงแก้วสะพายกระเป๋าไหมพรมสีหวานน่ารักเดินออกจากบ้านอย่างมีความสุขเบิกบาน หลังจากตกลงที่จะร่วมหุ้นกับนายหัวได้สำเร็จหล่อนก็รู้สึก ว่าทุกอย่างมันโล่งและกำลังไปได้ดีเหนือความคาดหมาย ในระหว่างที่หล่อนกำลังเดินทางไปร้านหนังสือที่อยู่ไม่ไกลไปจากนั้น  ภูธนาที่ขับรถคันโตผ่านมาแต่มิได้สังเกตน้ำที่นองอยู่บนพื้นถนน เขาขับตรง มาด้วยความเร็วเมื่อมาถึงแอ่งน้ำเล็กๆ ไม่ทันได้ชะลอความเร็วก็ทำน้ำที่นองอยู่ถูกล้อพัดกระเด็นออกข้างทางและผู้ โชคร้ายในขณะนั้นคงไม่พ้นอิงแก้วที่กำลังเดินผ่านทางนั้นพอดี


"อ้าย!!!!" เจ้าหล่อนร้องเสียงหลง  ภูธนาหยุดรถกระวีกระวาดออกมาตรงมาทางเจ้าหล่อนทันทีด้วยความรู้สึกผิดมหันต์


"ขอโทษครับๆๆๆๆ"เขาขอโทษขอโพยใหญ่ก่อนจับจ้องมองเจ้าหล่อน เบื้องหน้า...แต่งตัวน่ารักเสียด้วย ชายหนุ่มกวาดตามองเจ้าหล่อนราวกับลูกกวาดสีสวยตัวน้อยๆพลางยิ้มกว้างที่จะ ได้รู้จักเจ้าหล่อนโดยการแสดงความรับผิดชอบ แต่เมื่อหล่อนเงยหน้าขึ้นมองเขาความซวยก็ปรากฏทันที


"เฮ้ย!นี่พี่ภู"เจ้าหล่อนยกมือชี้หน้า ชายหนุ่มขมวดคิ้วตอบ



"นี่เธอเองน่ะเหรอ"



"เอ๋อ...นี่คงคิดจะแกล้งกันล่ะสิ"เจ้าหล่อนต่อปากทันพลันเมื่อพบว่าคู่กรณีที่เพิ่งขับรถไม่ดูตาม้าตาเรือคือศัตรูตัวฉกาจที่หล่อนไม่อยากจะพบเจอในยามที่หล่อนต้องการความสงบสุขของชีวิต


"นี่พูดให้มันดีๆนะ ใครต้องการจะแกล้งเธอ"ชายหนุ่มโวยวายขึ้นมาทันทีที่อิงแก้วกล่าวหาเขาเข้าเต็มๆ


"ใช่แน่ๆ คนอย่างพี่มันลอบกัด นี่คงจะคิดแก้แค้นเรื่องเมื่อวานล่ะสิ ไม่แมนเลยนะขับรถมาแล้วสาดน้ำใส่แบบนี้"หล่อนตั้งแง่และจัดการสรุปเสร็จสรรพ ชายหนุ่มเบิกตากว้างพยายามข่มอารมณ์ให้ถึงที่สุด


"ยัยอิง เธอน่ะคิดไปเอง ใครคิดอยากจะยุ่งกะเธอ ก็รู้ๆคนอย่างเธอมันเรื่องเยอะแถมยังปากร้าย ไม่มีทางที่พี่อยากจะเอาเวลาดีๆมาทะเลาะให้ประสาทเสียหรอกนะ"เขาสวนไปด้วยความรวดเร็ว อิงแก้วแทบกระพือปีก ก้าวเข้ามาประจันหน้ากับเขาโดยไม่เกรงกลัว



"ใช่ก็ไม่มีใครอยากจะยุ่งกะพี่มากนักหรอกนะ คิดว่าวิเศษมากหรือไงใครอยากอยู่ใกล้...แล้วนี่จะทำไง ดูชุดฉันสิ"หล่อนโวยวายทั้งเสื้อผ้าหน้าผมเปียกโชก ชายหนุ่มกวาดตามองพลางยิ้มมุมปากขันๆ



"ก็กลับไปเปลี่ยนสิถามได้"



"พูดปัดความรับผิดชอบนี่ ไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย"


"แล้วจะให้ทำไง"เขาทำหน้าเมินเฉยได้กวนอารมณ์เจ้าหล่อนที่เดือดเป็นกาต้มน้ำร้อน


"จ่ายค่าเสียหายมา"จริงๆหล่อนไม่ต้องการเงินอะไรแต่เพียงอยากจะเอาเรื่องกับคนอยากเขาให้ถึงที่สุด ภูธนาแทบจะเต้นเป็นเจ้าเข้าเจ้าหล่อนหน้าเลือดชัดๆ



"มันจะมากไปแล้วนะ ฉันไม่จ่ายจะทำไม พี่ไม่เอาเรื่องเธอก็ดีมากแค่ไหนแล้ว คนมาขอโทษกล่าวหาว่ากลั่นแกล้ง"เขาตอกกลับ อิงแก้วเบิกตากว้างเมื่อได้รับคำตอบจากเขา



"ทุเรศ! นี่หรือเจ้าของไร่ชาญทิพย์ไม่มีความรับผิดชอบ"



"แล้วเธอล่ะ อะไรนิดอะไรหน่อยก็คิดค่าเสียหาย หน้าเลือด"ภูธนาต่อปากต่อคำไม่ชักช้า อิงแก้วเต้นยิกๆ



"อะไรนะ...แล้วพี่ล่ะ มีดีอะไรนักหนา ทำอะไรก็ไม่รับผิดชอบ ถามหน่อยสิจะรีบไปไหนถึงได้ขับรถเร็วไม่มองสองข้างทางเห็นใจคนอื่นหน่อยสิ คนอื่นก็รีบแถมยังต้องมาเจอเรื่องซวยๆแบบนี้อีก ไม่ได้มีเวลาขับรถโชว์หล่อไปวันๆแล้วก็ว่างที่จะหาเรื่องคนอื่นแบบพี่  อ้อ แล้วนี่ตกลงจะจ่ายค่าเสียหายไหม"เจ้าหล่อนยังไม่เลิกรา ชายหนุ่มก็ไม่ยอมท่าเดียว ขิงก็ราขาก็แรง


"ไม่จ่าย"


"อ้อไม่จ่ายใช่ไหมฉันจะร้องลั่นเลยว่าทายาทใหญ่แห่งไร่ชาญทิพย์น่ะไร้ความรับผิดชอบแค่ไหน"


"เธอไม่กล้าหรอก"เขายิ้มมุมปากมองเจ้าหล่อนราวกับเด็กมะวานซืน  เจ้าหล่อนหน้าเง้ายกมือขึ้นป้องปาก


"พ่อแม่พี่น้องคะเจ้าของไร่ชาญทิพย์เป็นคนไร้...."เพียงแค่หล่อนตัดสินใจร้องลั่นชายหนุ่มไม่รอช้าวิ่งเข้ามาปิดปากเจ้าหล่อนทันที
ไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาเจอผู้หญิงแบบยัยอิงแก้วเลย

"นี่ยัยอิงแก้วเธอจะบ้าไปแล้วเหรอ แหกปากร้องลั่นเสียงดังขนาดนี้" เจ้าหล่อนดิ้นพล่านงับมือชายหนุ่มที่ยกขึ้นมาปิดปาก เล่นเอาภูธนาต้องรีบชักมือกลับด้วยสีหน้าขุ่นมัว

 

"ใครกันแน่ที่หาเรื่องก่อน..."


"เธอน่ะมันร้ายกาจ"


"พี่ภูก็ใช่ย่อย...ไอ้เรื่องเสื้อผ้าเนี่ย ฉันอโหสิให้...แต่เรื่องอื่นๆต่อจากนี้ไปไม่แน่ ฉันอาจจะทำแสบกว่านี้ถ้าพี่ยังมาหาเรื่องฉันแบบนี้อีก"เจ้าหล่อนหน้าตาเอาเรื่องไม่แพ้ชายหนุ่มที่ก็ไม่ยอมลดลาวาศอกกันง่ายๆ


"โอ้โห ทำอย่างกะอยากจะยุ่งกะเธอนักแหละ ถ้ามันไม่เกิดอุบัติเหตุบ้าๆนี่ก็ไม่คิดอยากจะพบพาลลกับแม่คุณอย่าเธอหรอก" เขายื่นหน้าเข้าใกล้ เจ้าหล่อนจ้องตาตอบไม่ยอมความ


"ฉันก็เหมือนกัน ฉันเกลียด เกลียดขี้หน้านายภูธนาจะแย่อยู่แล้ว แม้แต่ลมหายใจก็ไม่อยากจะใช้ออกซิเจนร่วมกับพี่เลย ต่อให้เหลือพี่เป็นผู้ชายคนเดียวบนโลกใบนี้ ฉันก็ไม่มีทางที่จะเข้าใกล้พี่เด็ดขาด" หล่อนเขย่งเท้าขึ้นให้สูงขึ้นแต่ทว่าหล่อนตัวเล็กเกินไปที่จะเทียบได้กับตัวเขา ชายหนุ่มยิ้มเยาะจับจ้องมองผู้หญิงตัวเล็กที่ชอบอวดดี


"ทำอย่างกะที่ผ่านมาอยากจะใกล้เธอนักล่ะ"


"ใช่ที่ผ่านมาแม้แต่หน้าก็ไม่อยากจะเห็น จำไว้เลยว่าฉันไม่อยากพบเจอพี่เลยซักนิด"หล่อนจวัดตาหนี ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ ต่างสะบัดหน้าหนีกันไปคนละทางต่างคนต่างอยู่และใช้ชีวิตของใครของมัน จะจริงหรือที่บอกว่าจะไม่เกี่ยวข้องกัน พวกเขาแน่ใจได้อย่างไร...????

 

 

 

 

ภูธนาแยกทางกับคู่กัดอย่างอิงแก้วเพื่อมาติดต่อซื้อขายเฟอร์นิเจอร์ที่จะนำมาตกแต่งร้านกาแฟของเขาที่กำลังจะเปิดในไม่ช้า โดยมีสังกร ทวีโชติเพื่อนสนิทเป็นผู้ช่วยและแนะนำเฟอร์นิเจอร์จากร้านของเขาให้กับภูธนาที่จะนำไปตกแต่ง ซึ่งนั่นคือพรมลิขิตที่ทำให้เขาได้พบกับพิมพาไฮโซสาวพราวเสน่ห์ของเหล่าหนุ่มทุกรุ่นทุกวงการ โดยเฉพาะสังกรที่เป็นเอามากมองตามเยิ้มไม่ยอมละ เขารู้จักชื่อเสียงเจ้าหล่อนดีว่าเป็นผู้หญิงพราวเสน่ห์ที่หนุ่มๆพากันหลงเคลิ้มและวันนี้ก็โชคดีหนักหนาที่เธอบังเอิญแวะมาพอดี

"แกเห็นผู้หญิงคนนั้นไหม คุณพิมพาไอโซสาวพราวเสน่ห์ในยุคนี้เลยนะโว้ย"สังกรผู้จัดการหนุ่มบุ้ยหน้าไปยังพิมพา สาวมั่นสง่า สวมชุดเดรสสั้นสีโอรสโดดเด่นที่อยู่อีกมุมของร้าน  ภูธนาเหลียวมองพลางยิ้มๆ


"ก็ดี"ชายหนุ่มพยักหน้า สังกรกุมหน้าอกตัวเอง สายตาเยิ้มหวาน


"ไม่คิดจะสนใจบางหรือไง ฉันเห็นแทบจะปล่อยใจไปกับเธอเลย"เขาหันมาขอความเห็น ภูธนาหัวเราะเล็กน้อย


"ฉันไม่คิดจะสนใจใครนอกจากหนูรินอีกแล้ว"


"เอาจริงด้วยแฮะ หลงจริงหลงจัง"สังกรออกปากแซวตั้งแต่ภูธนาอยู่กรุงเทพและกลับมาเชียงใหม่เขาก็ไม่เคยมีใครอีกในสายตานอกจากหนูริน



"ใช่ หนูรินเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมไปทุกอย่าง ทั้งหน้าตา ฐานะ ชาติตระกูลที่เหมาะสมกับทางเราทุกอย่าง"เขารักหล่อนที่อะไรกันแน่หรือ...หรือเพราะเพียงแค่ความที่เหมาะสมกับตน สังกรเลิกสนใจภูธนาพลางชะเง้อคอดูไฮโซสาวที่ยังคงสารวนเลือกดูของภายในร้าน


"อื่ม ครับพ่อหนุ่มเลือกได้ เชิญรักมั่นไปก่อนนะครับ"เพื่อนหนุ่มเย้าก่อนจะเหลียวมองพิมพาที่กำลังเดินตรงทางพวกเขาพอดี ถึงขนาดทำให้สังกรสั่นอยู่ไม่น้อย


"นั่นๆเธอเดินมาทางนี้แล้ว"เขาวางสีหน้าให้นิ่ง ขณะที่ภูธนาไม่ได้มีอาการหวั่นไหวแม้แต่นิดเมื่อหล่อนหยุดอยู่ตรงหน้า


"สวัสดีค่ะคุณสังกรและ....."หล่อนกล่าวทักทายสังกรเจ้าของร้านก่อนจะเหลียวมองภูธนาอยู่พักนึกสะดุดตาชายหนุ่มผิวขาว ร่างสูงมีสง่าเบื้องหน้า ชายหนุ่มยิ้มกว้างได้น่าดู โค้งศรีษะเล็กน้อย


"สวัสดีครับผมภูธนา"


"อ่อค่ะคุณภูธนา"หล่อนยื่นมือส่งให้เขา ชายหนุ่มยิ้มจับตอบโดยมารยาท พิมพายิ้มกรุ้มกริ่มและแล้วเธอก็ได้พบกับเขา เจ้าของไร่ชาญทิพย์ที่สาวๆต่างก็กล่าวขวัญในตอนนี้ และก็ไม่เสียคำพูดของใครต่อใครที่ต่างร่ำรือถึงความสง่าและหน้าตาดีเรียได้ว่าว่าหล่อดั่งเทพบุตรมาเกิด



"อ่อ ดิฉันได้ยินชื่อคุณบ่อยมากจากข่าววงสังคม ก็เพิ่งได้มาพบกับตัวจริงก็วันนี้" พิมพากวาดสายตามองชายหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้าพิจารณาถึงรสนิยมการแต่งตัวรวม ถึงการวางตัวซึ่งจัดได้ว่าเขาคือชายหนุ่มที่ดีพร้อมและน่าคบค้าสมาคมอยู่ไม่น้อย

 

"คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ"ชายหนุ่มยิ้มนิดๆวางตัวได้ดีกว่าสังกรที่พยายามทำตัวเป็นพวกเจ้าชู้คอยมองตามหล่อนราวกับโรคจิต

 

"เอ้ ว่าแต่คุณมาเลือกเฟอนิเจอร์ไปตกแต่งบ้านหรือคะ"

 

"อ่อ เปล่าครับผมกำลังจะเปิดธุรกิจใหม่เร็วๆนี้"

 

"ธุรกิจใหญ่เลยหรือเปล่าคะ"หล่อนยังคงถามต่อไม่ให้ขาดช่วงบทสนทนา และแน่นอนสังกรก็แทรกคำพูดไม่ได้ด้วยเช่นกัน
"เปล่าหรอกครับ เป็นธุรกิจร้านกาแฟเล็กๆแต่เน้นบรรยากาศ"

"น่าสนมากเลยค่ะ"พิมพายิ้มกว้างแสร้งทำเป็นสนใจในธุรกิจที่เขาจะทำแต่แท้จริงแล้วหล่อนสนใจในตัวเขามากกว่าสิ่งอื่นใดในตอนนี้


"มิทราบตอนนี้ยังต้องการหุ้นส่วนอีกหรือเปล่าคะ"


"เออ...พอดีผมมีหุ้นส่วนแล้วครับ"ภูธนากล่าว พิมพายิ้มแหยๆไม่เชิงเสียหน้าแต่ก็รักษากิริยาไว้


"อ่อ ไม่เป็นไรค่ะ"ยิ้มจางกลบเกลือน พลางมองสังกรอยู่แวบในขณะที่เขาส่งสายตาหยาดเยิ้มมาให้


"แต่พิมสนใจอยากจะทำธุรกิจเหมือนกัน ไม่ทราบคุณภูว่างมั้ยคะที่จะแนะนำพิม"


"ได้สิครับ ยินดีเสมอ"เขาตอบเป็นมารยาท พิมพากัดริมฝีปากเล็กน้อย


"ก็ถ้าเป็นวันนี้จะได้ไหมคะ พิมอยากได้ความรู้จะได้ปรับมาใช้เร็วๆ"หล่อนถามเสียงออดอ้อนใช้มารยาร้อยเล่มเกวียน สังกรมองเพื่อนด้วยแววตากลมวาวบอกเชียร์ให้รีบตกลง


"เออ...เป็นตอนเย็นดีไหมครับผมว่างพอดี"ภูธนาตอบรับ เขามิอาจถอดลายได้หมดคลาบพิมพาวาดลวดลายได้ถึงพริกถึงขิงขนาดที่ทำให้เสือ ถอดเล็บต้องกลับมาตอบตกลงได้ก็เรียกได้ว่าหล่อนไม่ธรรมดาเหมือนกัน


"พิมจะรอนะคะ หวังว่าคงไม่ทำให้ผิดหวัง"เจ้าหล่อนยิ้มยั้วยวนให้ท่าเขาเต็มที่ และภูธนาก็ไม่ได้โง่ที่จะเดาเกมของหล่อนออกได้ว่าหล่อนมีใจให้กับเขา และเขาก็ไม่ได้คิดจะนอกใจหนูริน แค่ขอเวลาให้กับพื้นที่เล็กๆที่จะลองรู้จักผู้หญิงพราวเสน่ห์กระชากใจเขาได้ชั่ววูบเท่านั้น

 

 
Link to Post    -Back to Top

Bookmark and Share

กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ
»
คลิ๊กที่นี่
Advertising Zone    Close
 
 
 
 
 
 
Online:  1
Visits:  57,695
Today:  35
PageView/Month:  45

ยังไม่ได้ลงทะเบียน

เว็บไซต์นี้ยังไม่ได้ลงทะเบียนยืนยันการเป็นเจ้าของเว็บไซต์กับ Siam2Web.com