สำนักพิมพ์ ปัณณ์รัก : มอบหัวใจให้คุณ

 
 
 
 
 
Started by Topic:    บ้านแสงจันทร์ ทะเลแสนดาว ตอนที่ 5  (Read: 869 times - Reply: 0 comments)
 
bdba

Posts: 8 topics
Joined: 30/1/2554

บ้านแสงจันทร์ ทะเลแสนดาว ตอนที่ 5
« Thread Started on 16/2/2554 9:46:00 IP : 202.28.248.135 »
 

ตอนที่5

ฉันและต้นตระกาลเดินทางออก จากบ้านแสงจันทร์หลังจากเล่นสงครามประสาทกับกรธวัชได้ระยะหนึ่ง เพื่อนหนุ่มออกจะขำขันฉันที่บ่นเป็นเรื่องเป็นราวตั้งแต่ห้องรับแขกจนมาถึง ที่จอดรถ ก็มันอดโมโหไม่ได้ เห็นกันชัดๆว่ากรธวัชกลั่นแกล้งให้งานของฉันมีอุสรรค์โดยอ้างว่าจะไปขอความ เห็นจากคนในตระกูลถึงจะมีเหตุผล ในข้อนี้แต่ฉันก็พอรู้ว่าเขาก็อยากจะทำให้งานฉันมันช้าไปอีกเรื่อยๆ เขามันเสือจอมเจ้าเล่ห์ในมาดนิ่งที่ทำให้คนอื่นเชื่อในใบหน้านิ่งสงบนั้น นั้นแต่สำหรับฉัน ฉันเกลียดสายตาคู่นั้นของเขาที่สุด ระหว่างที่กำลังขึ้นรถ มีรถคันโก้สีดำขับตรงมาจอดหน้าบ้านพร้อมกับชายหนุ่มสองคนที่เดินออกลงรถไว แทบวิ่ง ชายคนหนึ่งสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวผูกเน็กไทน์ดูดี รูปร่างสูงสง่า สวมแว่นขอบบางผิวขาวสะอาดจัดได้ว่าหล่อ อีกคนเป็นชายวัยกลางคนสวมแว่นตาเช่นกันแต่ดูภูมิฐานสวมสูทครบองค์ ฉันเหลียวมองเหตุการณ์ที่ผ่านไปรวดเร็ว ชายทั้งสองเดินฉับๆตรงเข้าไปในบ้านราวกับมีเรื่องด่วงเรื่องร้าย


"ใครกันน่ะ" ฉันชะเง้อหน้าออกไปนอกหน้าต่าง ต้นตระกาลมองเหตุการณ์ จากกระจกด้านข้างแทน



"คุณศักดิ์การาช กับ คุณบูรพิชน่ะ"



"ใครกันเหรอ เกี่ยวกับครอบครัวนี้หรือเปล่า"



"ก็คุณศักดิ์การาช เป็นลูกชายคนโตของท่านประกาศ รัตนาโชติ ส่วนผู้ชายที่หล่อๆน่ะ คือคุณบูรพิชลูกชายคนเดียว เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัย ได้ข่าวว่าจบปริญญาเอกมาจากอังกฤษมาหมาดๆ" ต้นสารธยายราวกับเป็นหนึ่งในครอบครัวนี้ แต่ก็ไม่น่าแปลกหากเรื่องราวของบ้านหลังนี้จะถูกลือไปทั่วเขตครามนี้



"ก็ว่าแล้วเชียว ดูดีจัง"



"ถ้านีย์ได้มาทำคลอลัมที่นี่ก็คงได้รู้จักกันอยู่ พวกเขาก็เทียวไปเทียวกับบ้านนี้เสมอ"



"อ้าว แล้วไม่ได้อยู่ที่นี่กันหรอกหรือ" ฉันออกจะฉงนใจ ทีนายกรธวัชยังอยู่แล้วคนอื่นๆล่ะไม่ได้พักที่นี่หรอกหรือ



"เขาลือกันว่า ตระกูลนี้เขาไปคนละทางตั้งแต่แบ่งมรดกแล้ว"



"อืม คงไม่มีใครทำใจได้ คงเว้นแต่อีตาขี้เก๊กกรธวัช"



"และอีกคนที่นีย์ต้องได้รู้จักแน่ๆก็คือคุณกามาศ รัตนาโชติ เธอเป็นพี่สาวของท่านประกาศ"



"อ่อ ฉันก็เคยได้ยินชื่อท่านนะ ในแวดวงสังคมท่านก็มีชื่อเสียงมาก" ฉันเคยเห็นรูปของคุณกามาศในนิตยาสารไฮโซเล่มหนึ่ง เธอเป็นหญิงที่แลดูมีอายุแต่ก็ใช่ว่าจะร่วงโรยไปตามกาลเวลา แต่จัดได้ว่าคุณกามาศนั้นสวยสง่าราวกับสาวพันปี ดวงตาคมกริบ ริมฝีปากบางเป็นกระจับแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางสีสด ชุดเสื้อผ้าล้วนแล้วแต่แบรนด์เนมและเครื่องเพชรอีกมากมาย



"อือ ก็อย่างที่บอก แต่เราว่าคนในตระกูลนี้เค้าก็คงไม่อยากให้ใครมารื้อฟื้นเรื่องในอดีตมากหรอก ยังไงถ้านีย์ได้ไปทำคลอลัมบ้านหลังนี้จริง ก็ระวังตัวบ้างล่ะ"



"จ้า แค่รู้กิตติศักดิ์ของแต่ละคนก็ขนลุกแล้ว" ฉันยิ้มกว้างให้กำลังใจกับตนเอง ฉันรู้แล้วว่าตระกูลรัตนาโชติร้ายกาจนับตั้งแต่ที่ฉันได้รู้จักกรธวัชผู้ชาย ที่ทั้งเย็นชาไร้ความรู้สึกแต่ถึงอย่างไรเขาก็คือผู้ชายที่เจ้าเล่ห์ที่สุด เท่าที่ฉันเคยเจอมา ถึงเขาจะไม่แสดงออกว่ากะล่อนลอกแลกแต่สิ่งเหล่านี้มันซุกซ่อนอยู่ภายในภาย ใต้ท่าทีที่แสนเมิน เฉย



ฉันเดินเที่ยวเดิน ริมชายหาดหลังจากที่แยกจากต้นตระกาลมาได้สักพัก รู้สึกเหงาอยู่ไม่น้อย มาเที่ยวทะเลทั้งทีน่าจะมีกลุ่มเพื่อนมาให้เจี๊ยวจ๊าวบ้างอย่างน้อยก็ไม่ ต้องมาเตะทรายเล่นแถมยังมีคู่เม้าส์ให้น้ำลายแตกฟองดีกว่าต้องมาจับเจ่าอยู่ อย่างนี้ คิดถึงบุษงเพื่อนยากมาทันทีถ้ายายบุษอยู่ก็คงดีจะได้หาวิธีหาวิธีเข้าบ้าน แสงจันทร์และทำงานให้สำเร็จไปเสียทีไม่ปล่อยให้อีตาขี้เก๊กเดินเกมนี้เด็ด ขาด ว่าแล้วกดโทรศัพท์หาเพื่อนสาวทันทีมีเรื่องต้องรายงานสักหน่อยว่าพ่อเทพบุตร ของเพื่อนฉันน่ะก่อเรื่องไว้จนเอือมระอามาสองวันแล้ว



"อะไรนะ!!!นี่แก เจอพ่อสุดหล่อแล้วหรือยายนีย์" เสียงจากปลายสายร้องแทบกรี๊ดหลังจากฟังเรื่องวีรกรรมทั้งสองวันของฉันกับ ตระกูลรัตนาโชติ


"ก็ใช่สิ พ่อสุดหล่อของหล่อนน่ะ ทำให้ฉันหัวเสียมาสองวันแล้ว นี่ไม่อยากคิดเลยนะว่าต้องเจอกับเขาอีก ฉันเพิ่งไปด่าเขาวันก่อนแล้ววันนี้ต้องมาตีหน้าเป็นมิตรพูดดีด้วยมันขัดกับ ความรู้สึกของฉันมากเลยถ้าไม่เพื่องานฉันไม่ทำหรอก นี่ยังต้องไปเจอเขาอีก ฉันคงต้องตายแน่ๆ"


"โธ่ๆๆๆ นีย์เพื่อนรักเอ๋ย ฉันรู้ว่าแกสามารถ ฉันว่าคุณกรธวัชก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอก แกอาจจะอคติเขาก็ได้"


"โอ้ย ฉันไม่เคยอคติใครก่อนนะถ้าเขาไม่ทำให้ฉันมองเขาในแง่นั้นก่อน"


"เอ้อ แล้วแกเจอคุณรินลรินหรือป่าว"


"ไม่เจอ" ฉันกำลังแตะทรายขาวนวลริมหาด น้ำทะเลสาดเข้าริมหาดคลื่นใหญ่ขณะที่ลมพัดเข้าปะทะกับตัวฉันเย็นสบายกาย แต่ทว่าเมื่อพบว่าบ้านใหญ่งแสงจันทร์ผุดขึ้นจากความคิดก็ทำให้ใจฉันร้าน ผ่าวๆได้เหมือนกัน


"นี่รู้ไหมยะ เขาลือกันให้แซดเลยแหละว่าที่เจ้าหล่อนว่าจะหมั้นน่ะ มันเป็นข่าวที่คุณเธออ่ะพูดเองเออเองนะยะ ตอนนี้ก็เห็นว่ารินลรินก็สงบปากสงบคำเรื่องนี้เหมือนกันไม่ให้สัมภาษณ์ สงสัยแหละว่าคงจะโดนเลื่อน"


"ฉันว่าให้คุณรินลริน ไปหาคนใหม่จะดีซะกว่า ดีกว่าต้องมาทนกับผู้ชายแบบนี้ คนดีๆยังมีอีกเยอะ"ฉันคิดว่าถูกแล้วที่งานนั้นเลื่อนเพราะคนเย็นชาและเอาแต่ ใจอย่างคุณกรธวัชคงไม่คิดจะทำอะไรให้มันง่ายหรอก


"ปล่อยยากแหละแก คุณกรธวัชเค้าออกจะหล่อ รวย มีชาติตระกูลขนาดนี้ การศึกษาก็ดีผู้หญิงคนไหนก็ไม่อยากปล่อยให้หลุดง่ายๆหรอก"


"ฉันคนหนึ่งเหอะ พอรู้ว่าต้องไปเจอเขาอีกก็แทบจะกระอักอยู่แล้ว ไม่รู้พวกผู้หญิงพวกนั้นทนไปได้ไง"


"แหม ก็หล่อนน่ะไปมีเรื่องกับเขาซะก่อนสิ เลยไม่เห็นในด้านดีเขา" ต่อให้ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อนฉันก็เกลียดสีหน้าและแววตาแบบนั้นอยู่ดี เขาวางตัวเป็นศัตรูกับฉันอยู่ตลอดเวลา ทั้งคำพูดและการกระทำให้ไปถามเด็กเจ็ดขวบอย่างกิจจายังรู้เลยว่าเขากลั่น แกล้งฉัน



"เอ้อ ฉันมีเรื่องจะถามหน่อยสิ" ฉันนึกออกได้ถึงเด็กชายกิจจา ถ้าเดาไม่ผิดเด็กน้อยคนนี้คงเป็นเจ้าของบ้านแสงจันทร์ที่คนในวงตระกูลต่าง ไม่ยอมรับ ก็เพราะว่าความคิดอันแสนจะพิศดานของท่านประกาศที่ทำให้เกิดปริศนาภายในบ้าน แสงจันทร์ ฉันว่ามันคงไม่ลึกลับเพียงแค่มรดกแต่มันน่าจะมีอะไรมากกว่านี้ ซึ่งต่อมความอยากรู้ก็สะกิดใจฉันให้เริ่มอยากสืบหาเรื่องราวน่าแปลกของบ้าน หลังนี้มากขึ้น



"มีอะไรเหรอ"



"บ้านแสงจันทร์มีเรื่องลึกลับอะไรอีกมากมายที่แกพอจะรู้บ้างไหม"



"จริงๆฉันก็เล่า ให้แกฟังไปแล้วนะ แต่จะว่าไปก็มีเรื่องที่เขาลือๆกันนะว่าบ้านแสงจันทร์น่ะมีเรื่องน่าแปลกที่ ว่าทุกเวลาเที่ยงคืนจะมีคนเห็นเงาตะคลุ่มๆตรงหน้าต่างชั้นบนสุด เขาก็ลือว่าเป็นวิญญาของท่านประกาศ"



"ท่านประกาศ เหรอ....ทำไมกัน ก็ไหนว่าท่านไปสงบ" คิดไปก็หวิวไป เรื่องวิญญาณเป็นอะไรที่ไม่เข้าใครออกใคร ต่อให้ท่านจะจากไปแล้วโดยไม่มีห่วงเพราะเขียนมรดกยกทุกสิ่งทุกอย่างให้ ทายาทนอกสายเลือด แต่ทว่าถ้าหากมีเรื่องเล่าว่าท่านเป็นวิญญาณแล้วยังไม่ไปไหนเพราะมีห่วง คนนอกอย่างฉันก็หวั่นๆเช่นกัน



"ท่านจะไม่สงบเพราะคนในตระกูลที่แก่งแย่งกันนี่สิ"



"ว่าไปนั่น พูดแล้วขนลุกนี่ก็ใกล้จะเย็นๆเชียว"



"ก็แกบอกให้เล่า ก็อย่าคิดมากสิ ไอ้เรื่องนี้มันโคมลอยน่ะจริงไม่จริงไม่รู้ แต่จะว่าไปมันก็อดสงสัยไม่ได้น่ะแก ว่าทำไมท่านประกาศถึงยกทุกอย่างให้กับเด็กอายุเจ็ดขวบที่เก็บมาเลี้ยงแทนที่ จะแบ่งมรกดให้กับคนครอบครัว"



"ก็นั่นสิ ฉันชักอยากรู้อยากเห็นแล้วเหมือนกัน" ฉันอยากรู้ เว้นเรื่องผีสางที่มันอยู่นอกกฏเกณฑ์จนเกินไป แต่เพราะบ้านหลังนั้นช่างเย้ายวนให้ฉันอดไม่ได้ที่อยากจะค้นหาความจริง



"ไหนๆแกก็ต้องอยู่ที่นั่น ไงแกก็ลองๆสืบดูสิ"



"ฉันก็แอบคิด เหมือนกันนะ บ้านแสงจันทร์ ครอบครัวรัตนาโชติมีอะไรแปลกๆกว่าที่คิดซะอีก ฉันว่าคุณกรธวัชจอมเก๊กนั่นคงจะรู้อะไรๆเยอะแยะแน่เลย" ฉันทะลายความกลัวคงหลงเหลือแต่เพียงปริศนาที่ค้างคาในหัวใจ หากฉันได้เข้าไปสำผัสบ้านหลังนั้นถึงขนาดนี้แล้ว กว่าจะถอยกลับก็คงจะสายไปแล้ว ไหนๆก็ไหนๆ ไม่เสียหายอะไรหากจะเข้าไปทำข่าวพร้อมกับสืบหาความจริงให้หายข้องใจ



ติดตามตอนต่อไป


 
Link to Post    -Back to Top

Bookmark and Share

กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ
»
คลิ๊กที่นี่
Advertising Zone    Close
 
 
 
 
 
 
Online:  1
Visits:  57,676
Today:  16
PageView/Month:  26

ยังไม่ได้ลงทะเบียน

เว็บไซต์นี้ยังไม่ได้ลงทะเบียนยืนยันการเป็นเจ้าของเว็บไซต์กับ Siam2Web.com