สำนักพิมพ์ ปัณณ์รัก : มอบหัวใจให้คุณ

 
 
 
 
 
Started by Topic:    ห้วงรัก เหวเสน่หา 1  (Read: 822 times - Reply: 0 comments)
 
nangkaew

Posts: 1 topics
Joined: 10/10/2553

ห้วงรัก เหวเสน่หา 1
« Thread Started on 11/10/2553 19:47:00 IP : 125.27.81.209 »
 
 

ท่านชายเจ้าเสน่ห์

 

ประเพณี  เชื้อชาติ  และสถานที่ย่อมมีอิทธิพลในการดำรงชีวิตของพวกศักดินา  หากเมื่อความรักมาเกี่ยวข้อง  หรือมนุษย์คนใดชนะจิตใจตัวเองได้เล่า

รัชสมัยตอนต้นของราชวงศ์ชิง (ขออนุญาตไม่กล่าวพระนามว่าเป็นองค์ใด)

เป็นช่วงของการเปลี่ยนแผ่นดิน ยังมีการก่อตั้งของพรรคดอกไม้แดงเพื่อล้มล้างฮ่องเต้

ท่านอ๋องไท้กวนนับเป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง พระองค์หนึ่ง เป็นพระอนุชาของฮองเฮา ซึ่งมีกันสองพี่น้องเท่านั้น และยังเป็นพี่น้องสนิทกันมาก

ท่านอ๋องไท้กวนดำรงตำแหน่งสำคัญทางทหาร  มีพระชายาหลี่ฉิงเป็นชายาเอก พระนางสืบเชื้อสายเป็นพระขนิษฐา บิดา-มารดาเดียวกับฮ่องเต้

สองเชื้อพระองค์มีราชโอรสเพียงพระองค์เดียว คือ ท่านชายไท้เทียนจง 

ท่านชายมีรูปงาม สง่าผ่าเผย หยิ่งทระนงในชาติกำเนิด  ทั้งยังมีราชภารกิจเป็นที่ปรึกษา และงานสำคัญต่างพระเนตรพระกรรณ เป็นท่านชายที่องค์ฮ่องเต้โปรดปราน ทั้งในฐานะพระนัดดา และฐานะของขุนนางชั้นสูง แม้ท่านชายจะมีอายุเพียงสิบเจ็ดปี

แต่ท่านเป็นคนที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสามารถยิ่งนัก ท่านชายแห่งหอเทียมฟ้าจึงนับว่าเป็นท่านชายที่มีขุนนางใหญ่น้อยต้องการได้เป็นลูกเขยยิ่งนัก ไม่เว้นแม้แต่เชื้อพระวงศ์ชั้นสูง หรือเจ้าหญิงหลายองค์ที่ได้แอบพบ หรือได้ยินกิติศัพท์ความหล่อเหลา และความสามารถสูงส่ง

                             ...............

วันนี้ฮ่องเต้เสด็จตำหนัก จินกุ้ยเฟย เพื่อบอกให้องค์หญิงองค์หญิงเล่อฉางรับทราบธุระสำคัญในการเกิดมาเป็นหญิงสูงศักดิ์ นั่นคือ

 การสมรสเพื่อชาติ'

องค์หญิงองค์หญิงเล่อฉางเป็นหญิงงาม ท่าทางเย่อหยิ่งจนดูเกือบกระด้างแข็ง ชอบใช้อำนาจต่อบ่าวไพร่ หากวันนี้ข่าวที่นางกำนัลนำมาให้ทำให้ทรงหมองลงไปเป็นอันมาก นางมีท่าทีรันทดเป็นอันมาก แม้แต่น้ำเสียงเจรจากับสาวใช้คนสนิทยังแฝงความเศร้ามิใช่น้อย

"ข้าจะปฏิเสธเสด็จพ่ออย่างไรดีเอี้ยนเอ๋อ ข้าจะทำอย่างไรดี"

"ความในใจไม่บอกไม่ได้นะเพคะองค์หญิง"

"เจ้าเป็นบ้าหรือไรจึงแนะนำเรื่องเหลวไหลดังนี้ ข้าจะเอาหน้าที่ไหนไปทูลเสด็จพ่อกันเล่า"

"บ่าวไม่ได้ให้ทูลองค์ฮ่องเต้ แต่ให้ทูลพระมารดาต่างหาก หากองค์หญิงเปิดเผยความในใจออกไป ไม่เพียงแต่จะระงับเรื่องการสมรสได้เท่านั้น แต่องค์หญิงจะสมดังใจปองด้วยนะเพคะ"

"ให้ข้าบอกพระมารดาว่าข้า..."องค์หญิงไม่กล่าวต่อ แต่ใบหน้าที่ทาสีชาดจนแดงนั้นยิ่งแดงจัดด้วยเลือดฝาดขึ้นไปอีกเท่าตัว ใบหน้าจึงแดงกล่ำดังนางเอกงิ้วก็ไม่ปาน

"ไปพบพระมารดาแล้วทูลเรื่องสำคัญก่อนเถอะเพคะ เห็นทีว่าพระมารดาจะยับยั้งพระราชโองการได้"

องค์หญิงเล่อฉางขบคิดเป็นครู่ใหญ่ นางกำลังชั่งใจของตนว่าเอียงไปทางใด ระหว่าง แต่งงานกับคนที่ตนรัก และการทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง แน่ล่ะ คนอย่างนาง ต้องเห็นแก่ตนอยู่แล้ว ดังนั้นนางจึงไปพบพระมารดาที่ตำหนักหลังก่อนพบองค์ฮ่องเต้พระราชบิดา

นางกำนัลคนหนึ่งไปทูลจินกุ้ยเฟย พระนางพยักหน้าเล็กน้อยก่อนทูลฮ่องเต้ว่า

"ชายหกร้องใหญ่แล้ว หม่อมฉันจะไปดูสักครู่นะเพคะฝ่าบาท"

"ไปเถอะจินเฟย ว่าแต่ป่านนี้ไยองค์หญิงเล่อฉางยังไม่มาเฝ้าข้าอีกเล่า"

จินกุ้ยเฟยรีบทูลว่า

"เมื่อคืนเห็นนางกำนัลมาบอกว่าองค์หญิงเล่อฉางไม่สบาย วันนี้คงมาถึงช้าหน่อย อย่างเพิ่งกริ้วเลยเพคะ"

"งานบ้านเมืองเป็นเรื่องสำคัญ จะให้รอได้หรือ"

"การเจ็บป่วยก็สำคัญนะเพคะฝ่าบาท เป็นไข้แล้วยังตากแดดตากลมหากล้มป่วยมากขึ้นนางคงทำเพื่อชาติไม่ได้แน่เพคะ"

ฮ่องเต้นิ่งอึ้งไป จินกุ้ยเฟย ฉวยโอกาสนี้เสด็จไปตำหนักใน ได้พบพระธิดาองค์ใหญ่รออยู่อย่างกระวนกระวาย พอเห็นหน้าองค์หญิงท่านดุไปคำหนึ่ง

"กล้าดีอย่างไรมาทางด้านหลังวังไม่เข้าหน้าวัง"

องค์หญิงทิ้งเข่าลงกับพื้นคำนับพระมารดา จินกุ้ยเฟยเป็นคนรักลูกยิ่งนัก พระนางมีความอ่อนไหวทันที จึงรีบประคองพระธิดาขึ้นถามออกมาทันที

"เจ้ามีความในใจอันใด อย่างบอกว่าไม่ยอมแต่งงาน"

"ประทานผ้าแพรให้ลูกผูกคอตายเสียดีกว่าเพคะ"

"ไฮ้ กล่าวเหลวไหล"

"พระมารดา พระมารดาต้องช่วยลูกนะเพคะ อย่าให้ลูกต้องแต่งงานนะเพคะพระมารดา"

"แม่จะช่วยเจ้าได้ง่ายอย่างใจได้หรือ"

"แต่ลูก ลูกได้มีคนรักแล้วเพคะ"

"อะไรนะ"จินกุ้ยเฟยอุทาน ทำหน้านิ่วด้วยความไม่พอใจ "นี่เจ้าแอบผิดประเพณีไปพบใครกัน เจ้าเป็นเจ้าหญิงของสนมเอก เจ้ากล้าทำเรื่องบัดสีเชียวหรือองค์หญิงเล่อฉาง"

"เรื่องหัวใจของลูก หัวใจที่กำลังแตกสลายเพราะจะต้องพลัดพรากจากคนรัก"

"มันเป็นใครกัน"

"เอ่อ...ท่านชายไท้เทียนจงเพคะพระมารดา"

จินกุ้ยเฟยสะดุ้งในพระทัยไปวูบหนึ่ง พระนางนิยมในตัวของไท้เทียนจงเป็นทุนเดิน จนคิดว่าเมื่อได้เวลาอันควรพระธิดาองค์เล็กมีอายุมากกว่านี้จะจัดให้เป็นภรรยาของอีกฝ่าย เพราะความที่ไท้เทียนจงเป็นคนมีอนาคตไกล พระสนมจินกุ้ยเฟย (ตำแหน่งเรียกพระสนมสูงส่งแซ่จิน) จึงได้มีความคิดที่จะผูกไมตรีไว้เป็นพวกพ้อง

จินกุ้ยเฟยมีพระธิดาสององค์ พระโอรสสององค์ พระโอรสองค์ใหญ่นั้น นามว่าองค์ชายสี่ แข่งขันกันเอาความดีกับองค์ชายใหญ่ เพื่อหวังตำแหน่งรัชทายาท ส่วนพระธิดาองค์หญิงเล่อฉาง เป็นลูกสาวคนโต แต่เป็นน้องสาวขององค์ชายสี่ มีอายุสิบเก้าปีแล้ว พระบิดาให้ออกเรือนไปเป็นเจ้าสาวของแคว้นฉี

การที่ได้ยินเช่นนี้ทำให้พระสนมหนักพระทัยไม่น้อยทีเดียว

"พระมารดาเพคะ อย่าผลักไสลูกให้ไปแคว้นฉีเลยเพคะ แม้แคว้นฉีมีความรุ่งเรืองมากก็จริง แต่ใจลูกไม่ปรารถนาเลยสักนิด ลูกมีความผูกพันอยู่กับคน ลูกรัก หากลูกต้องแต่งงานกับคนอื่น ลูกขอให้พระมารดาประทานความตายให้ลูกเสียดีกว่าเพคะ"

"เหลวไหลใครจะปล่อยให้เจ้าตาย องค์หญิงมีตั้งร้อย จะมาดีกว่าลูกแม่เห็นจะไม่ได้ เมื่อบอกแม่ก่อนแม่จะได้แก้ไขให้"

"ขอบพระทัย ขอบพระทัยเพคะ"

"เจ้ากลับไปตำหนัก แล้วนอนซมอยู่ แม่จะแกล้งพาพระบิดาไปเยี่ยม แล้วพูดเลี่ยงให้เจ้าเอง"

องค์หญิงองค์หญิงเล่อฉางแทบโห่ร้องด้วยความดีใจยิ่งนัก นางรีบกลับตำหนักไปตามคำแนะนำของพระมารดาทันที

 
Link to Post    -Back to Top

Bookmark and Share

กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ
»
คลิ๊กที่นี่
Advertising Zone    Close
 
 
 
 
 
 
Online:  2
Visits:  57,687
Today:  27
PageView/Month:  37

ยังไม่ได้ลงทะเบียน

เว็บไซต์นี้ยังไม่ได้ลงทะเบียนยืนยันการเป็นเจ้าของเว็บไซต์กับ Siam2Web.com